ถุงผ้าลดโลกร้อน
ทำไมถึงต้องใช้ถุงผ้า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
คณะกรรมการนานาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (IPCC)
ซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์กว่า ๒,๕๐๐ คน
จาก ๑๓๐ ประเทศ ได้พบข้อสรุปอย่างชัดเจนแล้วว่า สาเหตุของปัญหาโลกร้อน นั้น ร้อยละ
๙๐ มาจากการที่ มนุษย์เผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล
ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากเกินไป
จนความร้อนจากพื้นโลกไม่สามารถสะท้อนออกนอกโลกได้
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศอย่างรุนแรงไปทั่วโลก
ดังนั้นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันก็คือ
ลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงและปล่อยก๊าซคารบอร์ไดออกไซด์ลงให้มากที่สุด
เพื่อต่อเวลาให้กับโลกใบนี้ให้ยาวยิ่งขึ้น
ปัจจุบันได้มีถุงผ้าหลากหลายรูปแบบออกมาวางขายกันให้เราได้เลือกซื้อเยอะไปหมด
มีผู้ที่หันมาให้ความสนใจ
และผลิตถุงผ้าออกมาวางขายกันอย่างมากมาย
ตอนนี้องค์กรต่างๆของบ้านเราก็เริ่มหันมาผลิตถุงผ้าของตัวเองออกมา และก็มีการรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้ากันอย่างกว้างขวางมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนกันมากขึ้น บางคนอาจะมีคำถามในใจขึ้นว่า แล้วเราจะใช้ถุงผ้าตอนไหน ? ใช้ทำอะไร ? ก็พอจะตอบแบบตรงๆได้ว่า ก็ให้ใช้แทนถุงพลาสติกที่ท่านใช้ในแต่ละวันได้เลย จะยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพกันได้ง่ายขึ้น
· เข้ามินิมาร์ท ก็บอกพนักงานว่าไม่ต้องใส่ถุง และก็เก็บใส่ถุงผ้าเราแทน
· เข้าไปซื้อของในโลตัส คาร์ฟู ก็ใช้ได้นะ อายทำไมถุงผ้าเราสวย
· ซื้อกับข้าวแถวบ้าน ก็ใส่ถุงผ้าแทน ลดถุงพลาสติกไปได้หลายถุงเลย
· เข้ามินิมาร์ท ก็บอกพนักงานว่าไม่ต้องใส่ถุง และก็เก็บใส่ถุงผ้าเราแทน
· เข้าไปซื้อของในโลตัส คาร์ฟู ก็ใช้ได้นะ อายทำไมถุงผ้าเราสวย
· ซื้อกับข้าวแถวบ้าน ก็ใส่ถุงผ้าแทน ลดถุงพลาสติกไปได้หลายถุงเลย
ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน
และหันมาใช้ถุงผ้ากันมากๆ ต่อไปเราก็จะเห็นคนหันมาใช้ถุงผ้าตามกันมากขึ้น
เพราะบางท่านอาจจะไม่ค่อยกล้าใช้ หรือมองว่ามันลำบากมากขึ้น แต่ยังไงก็ขอให้ช่วยกัน
เพื่อที่จะแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
ยังไงก็ตามแต่หากเรามองถุงผ้าเป็นสินค้าแฟชั่น
และซื้อมาไว้มากมายเกินความจำเป็น มันก็จะไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น กลับจะทำให้เกิดขยะบนโลกมากขึ้น
ทั้งนี้ก็ขอให้มองจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ทำให้ถุงผ้าเกิดขึ้นมา
อย่าตามกระแสแฟชั่นมากเกินไป เพราะมันก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นนั่นเอง
cr.-ข้อมูลบางส่วนและรูปภาพจาก google.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น